เมื่อกีฬาฟุตวอลเลย์ เจอกับลีลาบาทาเหินหาวของนักกีฬาไทย

เมื่อกีฬาฟุตวอลเลย์ เจอกับลีลาบาทาเหินหาวของนักกีฬาไทย

เหมือนคู่แท้ที่รอคอยกันมานานแสนนาน สำหรับกีฬาชายหาดอย่างฟุตวอลเลย์ที่ถึงแม้ว่าจะเข้ามาในประเทศไทยได้เพียงไม่นาน แต่ก็ดูเหมือนว่านักกีฬาไทยจะสามารถเรียนรู้และสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี นั่นเพราะลักษณะการเล่นของกีฬาชนิดนี้ มันดันไปมีลักษณะคล้ายคลึงกับกีฬาเซปักตะกร้อที่ไทยถือเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่นั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนลักษณะลูกบอล และพื้นสนามเป็นผืนทรายก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อนักกีฬาไทยแต่อย่างใด

กีฬาชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นบนชายหาดของริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของลูกบอลกับการใช้เท้าอยู่แล้ว เมื่อบวกกับชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก จึงทำให้เกิดกีฬาชนิดนี้แตกแขนงออกมาจากฟุตบอลทั่วไป ซึ่งเริ่มจากการเล่นกันสนุก ๆ ของนักท่องเที่ยวบนชายหาด ก่อนที่จะมีการพัฒนาและกำหนดกฎกติกาการแข่งขันที่มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และมีการจัดการแข่งขันกันต่อ ๆ มา โดยกติกาการเล่นของกีฬาชนิดนี้ก็คือการใช้เท้าและหัวส่งบอลข้ามตาข่าย เหมือนกับตะกร้อบ้านเราแตกต่างกันแค่แต่ละฝั่งจะมีผู้เล่น 2 คน ผู้เล่นหนึ่งคนจะสามารถเล่นได้เพียงจังหวะเดียวแค่นั้นเอง ส่วนสนามก็จะเล่นกันบนผืนทรายโดยมีขนาด 9×18 เมตร และมีตาข่ายความสูง 2.2 เมตร

ด้วยความที่เป็นเกมกีฬาที่มีการเล่นคล้ายกับตะกร้ออย่างมาก ทำให้นักกีฬาจากประเทศไทยสามารถปรับตัวเข้ากับกีฬาชนิดนี้ได้อย่างดี แถมยังสามารถโชว์ลีลาการเหินเวหาในแบบการขึ้นทำของตะกร้อให้ชาวโลกได้ตะลึงอีกด้วย หลังจากที่การแข่งขันแบบเดิม ๆ ที่มีการรุกรับกันแบบธรรมดาไม่ได้สนุกตื่นเต้นขนาดนี้ ดังนั้นเมื่อการเล่นของนักกีฬาไทยแพร่กระจายออกไปสู่สายตาชาวโลก ต่างก็ทำให้วงการฟุตวอลเลย์ทึ่งไปตาม ๆ กันไม่เว้นแม้แต่ประเทศต้นกำเนิดเลยทีเดียว

นอกจากจะสร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการฟุตวอลเลย์ทั่วโลก ด้วยลีลาการเล่นที่สวยงามแล้ว ผลงานในการแข่งขันของนักกีฬาไทยยังทำออกมาได้ดีอีกด้วย จากที่กีฬาฟุตวอลเลย์เข้ามาในบ้านเราครั้งแรกตอนปี 2003 ทีมชาติไทยก็สามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกได้แทบจะในทันที และหลังจากนั้นในเวลาเพียงแค่ 7 ปี คือในปี 2010 ทัพนักกีฬาไทยก็สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ต้องบอกว่าเป็นการเรียนรู้และพัฒนาแบบติดจรวดกันเลยทีเดียว

และเมื่อปีที่แล้วนี้ประเทศไทยเราก็ได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตวอลเลย์ชิงแชมป์โลก ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกบนแผ่นดินตัวเองได้ หลังได้เพียงแค่รองแชมป์เพราะพ่ายให้แก่ต้นตำหรับอย่างบราซิลไปอย่างสนุกในนัดชิง แต่ก็ต้องถือว่าเรายังอยู่บนแถวหน้าของโลกในกีฬาชนิดนี้  รวมทั้งได้โชว์การเล่นที่สวยงาม และการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านกีฬาชนิดนี้อีกด้วย